วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แบทเตอรี่ไอโฟน




หากพูดถึงอุปกรณ์ที่ต้องพกพาแล้วสิ่งที่เราจะอดคิดถึงไม่ได้เลยก็คือ " battery " หากพูดถึงแบตเตอรี่แล้วเราอาจจะเกิดคำถามสงสัยขึ้นมาในใจว่า "ซื้อมาครั้งแรกนั้น ต้องชาร์ตที่ชั่วโมง" "ถ้าแบตเตอรี่ยังไม่หมด แล้วจะชาร์จได้ไหม" วันนี้ทางทีมงาน iPhone 4 Society จะมาอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับ battery ให้เพื่อนๆได้หายสงสัยกันครับ
       
        ปัจจุบัน battery ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย คือ battery ชนิด Li-ion ( Lithium-ion อ่านว่า ลิเทียมไอออน ) ซึ่ง Apple ก็ได้นำ battery ชนิดนี้มาใช้กับ iPhone / iPod / iPad หรือไม่ว่าจะอุปกรณ์พกพา อุปกรณ์ทั้งหลายทางเทคโนโลยีที่คุ้นเคย นิยมใช้แบตเตอรี่แบบ Li-ion เช่นกัน

        Battery ชนิด Li-ion นั้นสามารถเก็บประจุไฟได้มากกว่า battery ชนิด nickel และจุดเด่นของ battery ชนิด Li-ion นั่นคือ มีน้ำหนักเบากว่า ใช้งานได้ยาวนานกว่า และยังสามารถชาร์จไฟได้ทุกครั้งตามเราที่ต้องการ พูดง่ายๆคือ สามารถชาร์จ battery เมื่อไหร่ก็ได้ โดยที่ battery นั้นยังไม่หมดก็ได้ นั่นเอง


การชาร์จไฟของ battery ชนิด Li-ion นั้นจะแบ่งเป็นสองช่วง คือ 0 - 80% แรกนั้นเป็นการชาร์จเร็ว เรียกว่า Fast Charge หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงที่สอง เป็นการชาร์จอย่างช้าๆไปจนถึง 100% เรียกว่า Trickle Charge






การนับรอบการชาร์จของ battery ชนิด Li-ion ( Charge Cycle ) นั้น จะนับความจุที่เราชาร์จเข้าไปในแต่ละครั้ง แล้วนำมาบวกกันจนครบ 100% เมื่อครบ 100% แล้วจะนับเป็น 1 รอบ หรือ 1 Cycle นั่นเอง เช่น
วันที่ 1 iPhone มี battery เหลืออยู่ 50% แล้วทำการชาร์จจนเต็ม 100% ( +50% )
วันที่ 2 iPhone มี battery เหลืออยู่ 80% แล้วทำการชาร์จต่อจนเต็ม 100% ( +20% )
วันที่่ 3 iPhone มี battery เหลืออยู่ 70% แล้วทำการชาร์ตต่อจนเต็ม 100% ( +30% )
จากตัวอย่างข้างต้น เราจะได้ 1 รอบการชาร์จ ( 50% + 20% + 30% = 100% )

        โดยปกติแล้ว battery ชนิด Li-ion นั้นจะเก็บความจุลดลงทุกครั้งเมื่อมีรอบการชาร์จมากขึ้น  สำหรับ battery ของ iPhone / iPod ยังสามารถเก็บประจุได้ประมาณ 80% หลังจากผ่านการชาร์ตไปประมาณ 400 รอบ

        การดูแลรักษา battery ชนิด Li-ion นั้น คือ ไม่ให้ battery นั้นร้อนเกินไป เพราะ การที่ battery ร้อนมากๆนั้นจะทำให้ความสามารถในการเก็บประจุลดลง ทำให้ battery เกิดอาการเสื่อมเร็วนั่นเอง

การรีสตาร์ทไอโฟน



ไอที-โมบายเซ็นเตอร์ ( เยื้องที่ทำการไปรษณีย์ควนเนียง )

จำหน่าย - ซ่อม

คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุค
และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ
facebook : https://www.facebook.com/itmobile30

Blog : http://setupiphoneapp.blogspot.com/

หลายคนอาจสงสัยว่า เวลาเครื่องดับ ไม่ว่าจะดับเพราะอะไรก็ตาม จะแก้ไขอย่างไรให้มันกลับมาตื่น รวมไปถึงสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงทั้งหลาย หลายคนอาจรู้ หรือไม่รู้ว่าต้องแก้อย่างไร ในครั้งนี้ จึงขอแถลงไขวิธีการ และการแก้ไขเครื่อง ผ่านการใช้ปุ่ม Home พร้อมกับ Power ทั้งหมดดังนี้
วิธีการกดปุ่ม Home กับ Power พร้อมกันนั้น ปุ่ม home คือปุ่มที่อยู่ใต้หน้าจอ ส่วนปุ่ม Power คือปุ่มที่อยู่ด้านบนที่ไว้ล็อคจอ / เปิดเครื่อง ปิดเครื่อง สำหรับการกดที่ว่านี้ ให้ทำการกดสองปุ่มนี้ลงไปพร้อมกัน โดยไม่จำเป็นต้องสนสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ สักครู่ต่อมา ตัวเครื่องจะดับและเปิดใหม่สักครู่ เมื่อติดรูปหน้าจอ Apple ให้ปล่อยมือได้

การกดปุ่ม Home กับ Power ค้างไว้พร้อมกัน แต่ล่ะแบบ จะมีผลดังนี้

- กดค้างไว้พร้อมกันจน Restart
- กดค้างลากจากการ Restart ครั้งแรก ในรอบที่สองของการ Restart จะเป็นการปิดเครื่อง

การกดปุ่ม Home กับ Power ค้างไว้พร้อมกันใช้ในโอกาสไรบ้าง

- เครื่องค้าง / เครื่องดับไปเองทุกกรณี
- ต้องการ Restart เครื่องหนึ่งรอบ
- App ที่ใช้งานบางตัว ที่ไม่สามารถทำงานได้ เมื่อกดแล้ว จะเป็นการคืนหน่วยความจำกลาง (RAM) เพื่อกลับมาใช้งานใหม่

ฉะนั้นแล้ว ทั้งหมดนี้ ถือว่าได้ทำความรู้จักกับการกดปุ่ม Home กับ Power เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรายังมีบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจดังนี้ และพบกันใหม่ในอาทิตย์หน้า กับ Tips ที่น่าสนใจเช่นเดิม^^




TAG : ซ่อมคอม, ซ่อมโน๊ตบุค, ร้านคอมควนเนียง

ร้านควนเนียงคอมพิวเตอร์ช็อปแอนด์เซอร์วิส ( ข้างเซเว่นอีเลฟเว่น )

โทร :: 0858933445

LINE : itmobile319

Facebook Page : https://goo.gl/UIefxU

หรือค้นหา :: Kncomshop

www.kncomshop.com

TAG : ซ่อมคอม, ซ่อมโน๊ตบุค, ร้านคอมควนเนียง